วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

แปลเพลง The Story Of Us – Taylor Swift






จำได้ว่าตอนที่เพลงนี้ออกมาใหม่ๆ
ตอนนั้นอยู่ประมาณม. 5 ได้
ช่วงนั้นคือเข้าห้องสมุดบ่อยมากค่ะ
ไม่ได้ซุ่มอ่านหนังสืออะไรหรอกนะคะ  
พอดีว่าห้องสมุดแอร์มันเย็นดีค่ะ  
.
แล้วมันเกี่ยวกับเพลงนี้ยังไง?
ก็เอ็มวีนี้ไงคะ!!
ฉากห้องสมุด คืออินมากกก
และรู้สึก Related ค่ะ 
ตอนนั่งดูเอ็มวีนี้ก็นั่งดูในห้องสมุดนี่ละ
คือรู้สึกอยากเป็นเหมือนในเอ็มวีบ้าง
.
นี่ก็เอาเลยค่ะ
ไปเดินตามชั้นหนังสือบ้าง
หยุดตรงชั้นทำเป็นมองทะลุชั้นบ้าง
เผื่อจะเจอพระเอกกับเค้าบ้าง
5555555
( เออรู้ว่าต้องมีคนแอบทำเหมือนกันแหละ! )
.
สรุป!
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ!
ชั้นก็ยังคงเป็นชั้น
ไม่มีพระเอกใดๆ เดินมา
เสียงกริ่งดังโรงเรียนเลิก
กลับบ้านสิ รออะไร?!!
.
.
  This is looking like a contest  
  of who can act like they care less.  
นี่มันเหมือนเป็นการแข่งขัน
ว่าใครที่จะใส่ใจได้น้อยที่สุด

.
  So many things that I wish you knew.  
หลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันหวังว่าเธอรู้
.
  I don't know what to say since the twist of fate.  

ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรตั้งแต่โชคชะตามาเล่นตลกแบบนี้
* Twist of fate ก็คือโชคชะตา
ที่ไม่เป็นไปตามแผนที่เราคาดไว้
ในเพลงจะแปลว่า โชคชะตาเล่นตลก
อะไรแบบนี้นะคะ

.
  You held your pride like you should have held me.  
เธอโอบกอดศักดิ์ศรีของตัวเองมากกว่า
ที่ควรจะมาโอบกอดฉันเสียอีก

*ท่อนนี้คืออารมณ์คล้ายๆ กับ
ผู้ชายก็ไม่กล้าแสดงความรู้สึกออกมา
หยิ่งจนไม่กล้าบอก จนยอมปล่อยเธอไปเช่นกัน

.
  I've never heard silence quite this loud.  
ฉันไม่เคยได้ยินเสียงความเงียบดังเท่านี้มาก่อน
** เคยไปยืนต่อหน้าคนที่ชอบไหมคะ?
ความรู้สึกตอนนั้น
มันจะไม่ค่อยรู้ตัว
ตัวชา มือชา หูชา
ไม่ได้ยินเสียงอะไร
ทุกอย่างมันเงียบไปหมด
เงียบแบบไม่เคยรู้เลยว่า
เสียงความเงียบมันจะดังเท่านี้มาก่อน

.
  I would lay my armor down,
  If you'd say you'd rather love than fight.  

ฉันพร้อมจะวางเสื้อเกราะลง
หากเธอพูดมาว่าอยากจะรักมากกว่าทำสงครามกัน

.
  Why are we pretending this is nothing?  
ทำไมเราต้องเสแสร้งทำเป็นว่ามันไม่มีอะไร

.
  I'd tell you I miss you but I don't know how.  
ฉันหวังว่าจะบอกเธอว่าฉันคิดถึงแต่ฉันก็ไม่รู้ว่าจะบอกยังไง
.


   แปลเพลง The Story Of Us – Taylor Swift  


I used to think one day we'd tell the story of us
How we met and the sparks flew instantly
People would say, "they're the lucky ones"
ฉันเคยคิดว่าวันหนึ่งเราคงได้มาเล่าเรื่องราวของเราสองคน
เล่าว่าเราเจอกันได้ยังไงและเราสปาร์กกันทันที
ใครๆ ต่างก็บอกกับเราว่า พวกเค้าเป็นคู่ที่โชคดี

(
** ในประโยคเป็น they ก็หมายถึงตัวนางเอกและพระเอกค่ะ
แต่มุมมองในคนอื่นพูดเลยใช้
They
นั่นเอง )

I used to know my place was a spot next to you
Now I'm searching the room for an empty seat
'Cause lately I don't even know what page you're on
ฉันเคยรู้ที่ของฉันเองก็คือที่นั่งถัดจากเธอ
แต่ตอนนี้ฉันได้แต่มองหาที่ว่าง
เพราะช่วงหลังมานี้ฉันแทบไม่รู้เลยว่าเธออยู่หน้าไหน

(
** ฝรั่งเค้าชอบเปรียบว่าชีวิตเหมือนหนังสือหนึ่งเล่ม
และการที่บอกว่าเราอยู่กันคนละหน้า มันเหมือนว่า
ไม่ได้ใช้ชีวิตไปในทิศทางเดียวกัน
เราไม่ได้ต้องการแบบเดียวกันแล้ว
ฉันตามเธอไม่ทันแล้ว อะไรแบบนี้ค่ะ)


Oh, a simple complication
Miscommunications lead to fall out
So many things that I wish you knew
So many walls up I can't break through
ความยุ่งยากง่ายๆ เบื้องต้น
การสื่อสารที่ไม่ตรงกันมันนำเราไปสู่การทะเลาะกัน
หลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันหวังว่าเธอรู้
กำแพงมากมายที่ขวางกั้นอยู่ฉันทำลายมันไม่ได้

Now I'm standing alone In a crowded room
And we're not speaking and I'm dying to know
Is it killing you like it's killing me yeah
I don't know what to say since the twist of fate
When it all broke down and the story of us
Looks a lot like a tragedy now next chapter
ตอนนี้ฉันได้แต่ยืนโดดเดี่ยวทั้งๆ ที่ในห้องมันมีแต่ผู้คนมากมาย
และเราก็ไม่คุย ฉันอยากรู้ใจจะขาด
ว่ามันทำเธอคลั่งแทบบ้าอย่างฉันบ้างหรือเปล่า
ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรตั้งแต่โชคชะตามาเล่นตลกแบบนี้
เมื่อทุกอย่างมันพังลงและเรื่องราวของเรา
ก็คงจะดูเหมือน
โศกนาฏกรรมฉากใหญ่ ทีนี้ไปบทต่อไป
!

How'd we end up this way?
See me nervously pulling at my clothes
And trying to look busy
And you're doing your best to avoid me
เราให้มันจบลงแบบนี้ได้ยังไง
ฉันดึงเสื้อผ้าตัวเองอย่างวิตกกังวล
และพยายามทำให้มันดูยุ่งมากที่สุด
ส่วนเธอก็พยายามที่จะคอยหลบหน้าฉันอยู่เรื่อยไป


I'm starting to think one day I'll tell the story of us
How I was losing my mind when I saw you here
But you held your pride like you should have held me
วันหนึ่งฉันก็เริ่มคิด ฉันจะเล่าเรื่องราวของเรา
ว่าฉันสติแตกแค่ไหนตอนที่เจอเธอที่นี่
แต่เธอก็โอบกอดศักดิ์ศรีของตัวเองมากกว่าที่ควรจะมาโอบกอดฉันเสียอีก


Oh, I'm scared to see the ending
Why are we pretending this is nothing?
I'd tell you I miss you but I don't know how
I've never heard silence quite this loud
ฉันกลัวเหลือเกินที่จะเห็นจุดจบ
ทำไมเราต้องเสแสร้งทำเป็นว่ามันไม่มีอะไร
ฉันหวังว่าจะบอกเธอว่าฉันคิดถึงแต่ฉันก็ไม่รู้ว่าจะบอกยังไง
ฉันไม่เคยได้ยินเสียงความเงียบดังเท่านี้มาก่อน

Now I'm standing alone in a crowded room
And we're not speaking and I'm dying to know
Is it killing you like it's killing me yeah
I don't know what to say since the twist of fate
When it all broke down and the story of us
Looks a lot like a tragedy now
ตอนนี้ฉันได้แต่ยืนโดดเดี่ยวทั้งๆ ที่ในห้องมันมีแต่ผู้คนมากมาย
และเราก็ไม่คุย ฉันอยากรู้ใจจะขาด
ว่ามันทำเธอคลั่งแทบบ้าอย่างฉันบ้างหรือเปล่า
ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรตั้งแต่โชคชะตามาเล่นตลกแบบนี้
เมื่อทุกอย่างมันพังลงและเรื่องราวของเรา
ก็คงจะดูเหมือน
โศกนาฏกรรมฉากใหญ่

This is looking like a contest
Of who can act like they care less
But I liked it better when you were on my side
The battle's in your hands now
But I would lay my armor down
If you'd say you'd rather love than fight
So many things that you wish I knew
But the story of us might be ending soon
นี่มันเหมือนเป็นการแข่งขัน
ว่าใครที่จะใส่ใจได้น้อยที่สุด
แต่ฉันชอบตอนที่เธอยังอยู่ข้างเดียวกับฉันมากกว่า
อาวุธทั้งหลายที่อยู่ในมือเธอ
ฉันพร้อมจะวางเสื้อเกราะลง
หากเธอพูดมาว่าอยากจะรักมากกว่าทำสงครามกัน
หลายสิ่งหลายอย่างที่เธอหวังว่าฉันจะรู้
แต่เรื่องราวของเรามันคงต้องปิดฉากลงเร็วๆ นี้

Now I'm standing alone in a crowded room
And we're not speaking and I'm dying to know
Is it killing you like it's killing me yeah
I don't know what to say since the twist of fate
When it all broke down and the story of us
Looks a lot like a tragedy now, the end
ตอนนี้ฉันได้แต่ยืนโดดเดี่ยวทั้งๆ ที่ในห้องมันมีแต่ผู้คนมากมาย
และเราก็ไม่คุย ฉันอยากรู้ใจจะขาด
ว่ามันทำเธอคลั่งแทบบ้าอย่างฉันบ้างหรือเปล่า
ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรตั้งแต่โชคชะตามาเล่นตลกแบบนี้
เมื่อทุกอย่างมันพังลงและเรื่องราวของเรา
ก็คงจะดูเหมือน
โศกนาฏกรรมฉากใหญ่
จบ!





  อย่าลืมตามไปกดไลค์และมาเรียนรู้ภาษาอังกฤษจากเพลงด้วยกันได้ที่...
  เพจ 'ภาษาอังกฤษ ฟิตจากเพลงที่นี่เลยค่ะ >>>  http://goo.gl/x9yzUd  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แปลเพลง Pictures – Lady Antebellum

There's a four by six of a sunset kiss And one of you laughing at me catching my first fish One on Valentine's Day Wi...